วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2559

10 อันดับ สัตว์ที่มีพิษร้ายแรงที่สุด

อันดับที่ 10 Puffer Fish ปลาปักเป้า


ปลา ปักเป้า คือสัตว์มีพิษที่มีคนนิยมบริโภคมาก โดยเฉพาะในแถบประเทศญี่ปุ่น (ปลาปักเป้าภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ฟูกุ) และเกาหลี (ในส่วนของภาษาเกาหลีจะเรียกว่า บ๊อค ฮัง) โดนเนื้อปลาปักเป้านั้น จริงๆแล้ว ไม่ได้มีพิษ แต่ส่วนที่มีพิษก็คือพวกผิวหนังและเครื่องในของปลาปักเป้า แต่พิษเหล่านี้มักจะซึมเข้าไปในเนื้อตอนแล่ พ่อครัวที่จะแล่ปลาปักเป้าต้องมีใบอนุญาติกันเลย ถ้าหากกินพิษของปลาปักเป้าไป อาจจะทำให้เสียชีวิตได้ในทันที

อันดับที่ 9 Poison Dart Frog กบลูกดอก


กบ ลูกดอกสีน้ำเงินนั้นเป็นสัตว์ ที่อยู่ในป่าฝนในทวีปอเมริกากลางและอเมริกาใต้ เป็นกบที่มีสีสันสวยงามแต่พิษของมันร้ายแรงมาก พิษของกบลูกดอก 1 ตัว สามารถฆ่าคนได้ถึง 10 คนและหนูถึง 20,000 ตัว พิษของมันเพียง 5 ไมโครกรัม (เท่ากับปลายเข็ม) ก็สามารถฆ่าคนและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ๆได้ พิษของมันถูกนำมาใช้ ในลูกดอกอาบยาพิษของอินเดียแดง มันจึงถูกเรียกว่ากบลูกดอก

อันดับที่ 8 Inland Taipan งูไทปันโพ้นทะเล


งูไทปันถูกพบได้มากในทวีป ออสเตรเลีย เป็นงูที่มีพิษร้ายแรงมาก พิษที่มันปล่อยออกมาจากการกัดหนึ่งครั้ง สามารถฆ่าคนได้ถึง 100 คน หรือหนู 250,000 ตัว พิษของมันสามารถฆ่าคนได้ภายใน 45 นาที แต่อย่างไรก็ตาม งูไทปันเป็นงูที่ค่อนข้างขี้อาย ไม่เคยมีการบันทึกว่ามีคนตายจากพิษของมัน

อันดับที่ 7 The Brazillian Wandering Spider แมงมุมบราซิล


แมงมุม บราซิลหรือแมงมุมกล้วย ได้รับการบันทึกลงในกินเนสเวิลด์เรคคอรด์ว่าเป็นแมงมุมที่มีพิษร้ายแรงที่ สุดในโลก พิษของมันมีพิษทำลายประสาท พวกมันจะอันตรายอย่างมากเพราะโดยนิสัยของมันแล้วมันชอบแอบอยู่ตามรองเท้า ตู้เสื้อผ้า แม้กระทั่งในรถยนต์ พิษของมันถ้าโดนกัดนอกจากจะทำให้เจ็บปวดอย่างมากแล้ว มันจะทำให้อวัยวะเพศของเราควบคุมไม่ได้ และถ้ารอดตายจากการโดนมันกัด มันก็จะทำให้เราเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

อันดับที่ 6 Stonefish ปลาหิน


ถ้า แข่งกันในเรื่องของความสวย งามแล้ว ปลาหิน ท่าทางจะแพ้อย่างขาดลอย แต่ถ้าแข่งกันเรื่องความรุนแรงของพิษแล้วละก็ เจ้าปลาหินไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มันได้ชื่อว่าเป็นปลาที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก พิษของปลาหินนี้จะอยู่ในหนามของตัวมันเอง มีคนบอกว่า ถ้าคุณโดนมันแทงเข้าละก็ คุณจะได้ลิ้มรสความเจ็บปวดเท่าที่มนุษย์จะเจ็บได้เลยทีเดียว นอกจากจะเจ็บสุดๆแล้ว มันจะทำให้คุณเป็นอัมพาต แล้วก็ตายได้ในที่สุด

อันดับที่ 5 Death Stalker Scorpion แมงป่องเดธท์ สตอล์คเกอร์


แมงป่องโดยทั่วไปนั้น ถึงแม้ว่าจะโดนกัด พิษของมันก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรมนุษย์ได้มากนัก อาจจะเจ็บปวดนิดหน่อย แต่?มันไม่ใช่สำหรับแมงป่องพันธุ์เดธท์ สตอล์คเกอร์เลย เพราะพิษของมันสามารถทำลายระบบ ประสาทได้ ถ้าคุณโดนมันกัด คุณจะปวดอย่างมหาศาล จากนั้นจะตามมาด้วยอาการไข้ขึ้น เป็นอัมพาต และตายในที่สุด แต่ถึงแม้พิษมันจะร้ายแรงมาก แต่มันก็ไม่สามารถฆ่ามนุษย์ที่เป็นผู้ใหญ่ได้ แต่ว่ามันจะเป็นอันตรายต่อ เด็ก ทารก คนแก่ อย่างมาก ถึงแม้ว่ามันไม่สามารถที่จะฆ่าผู้ใหญ่ได้ แต่มันก็ทำให้เป็นอัมพาตได้นะ

อันดับที่ 4 Blue-Ringed Octopus ปลาหมึกแหวนน้ำเงิน


ปลา หมึกแหวนน้ำเงินนั้นมีขนาด ที่เล็กมาก ขนาดประมาณลูกกอลฟ์เท่านั้นเอง แต่ขนาดไม่ใช่ปัญหาสำหรับความรุนแรงของพิษมันเลย เพราะพิษมันสามารถฆ่าคนได้ภายในไม่กี่นาที และที่สำคัญ มันยังไม่มียาแก้พิษ =.= ถ้าโดน ปลาหมึกแหวนน้ำเงินกัดละก็ คุณจะไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรมากหรอก แต่ว่าพิษมันจะเริ่มทำลายระบบประสาทของคุณ หลังจากนั้นคุณจะรู้สึกอ่อนแอและคุณก็จะเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ระบบการหายใจจะเริ่มล้มเหลว หลังจากนั้น ก็ตายในที่สุด

อันดับที่ 3 Marbled Cone Snail หอยเต้าปูนลายหินอ่อน


หอย เต้าปูนตัวเล็กๆ สีสันสวยงาม แต่!!! พิษของมันน่ะเหรอ เพียงแค่หยดเดียว สามารถฆ่าคนได้ถึง 20 คน ถ้าคุณเล่นน้ำที่ทะเลที่มันค่อนข้างอุ่นๆแล้วเห็นเจ้าตัวนี้อยู่ อย่าคิดที่จะหยิบมันมาเล่นเลย แค่ดูมันอยู่ห่างๆก็พอแล้ว เพราะถ้าคุณโดนพิษมันเล่นงานละก็ คุณจะปวด หลังจากนั้นก็จะเริ่มบวม ระบบการหายใจเริ่มล้มเหลว ร่างกายจะคันหยุกหยิก เป็นอัมพาต แล้วก็ตายในที่สุด แต่ยังไงก็ตาม มีรายงานว่ามีแค่ 30 คนเท่านั้นที่ตายเพราะหอยเต้าปูน

อันดับที่ 2 งูจงอาง


งู จงอางหรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ ว่า Ophiophagus hannah เป็นงูพิษที่มีลำตัวยาวที่สุดในโลก ด้วยขนาดโตสุดที่ 5.6 เมตร งูจงอางนั้น เรารู้กันว่าอาหารโปรดของมันก็คือ งู !!! นั่นหมายความว่ามันกินสัตว์ตระกูลเดียวกัน และเพียงแค่โดนมันกัดเพียงครั้งเดียว ก็ทำให้คนตายได้อย่างง่ายๆ และพิษของมันนั้น สามารถฆ่าช้างที่โตเต็มวัยได้เพียงแค่ 3 ชั่วโมง ในส่วนประกอบของมันแตกต่างกับพิษงูโดยทั่วไป ที่สำคัญมันพบได้ทั่วไปในทวีปเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และในประเทศไทย

อันดับที่ 1 Box Jellyfish แมงกระพรุนกล่อง


และ แล้วแมงกระพรุนกล่องก็ได้ เป็นแชมป์สัตว์ที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก รายงานว่ามันฆ่าคนไปแล้ว 5,567 คน พิษของมันนั้นจะไปทำลาย หัวใจ ระบบประสาท ผิวหนัง และที่สำคัญ ถ้าโดนพิษมันจะเจ็บปวดอย่างที่สุด ส่วนใหญ่คนที่โดนพิษมันนั้นจะช็อค และหัวใจล้มเหลวก่อนที่จะกลับเข้าถึงฝั่ง แต่ถ้าคุณโดนพิษมันก็ยังมีโอกาสที่จะรอดอยู่นั่นคือ ต้องรีบเอาน้ำส้มสายชู มาล้างอย่างน้อย 30 วินาที เพราะมันจะทำลายพิษของแมงกระพรุนกล่องก่อนที่มันจะเข้าไปสู่กระแสเลือด

ที่มาhttps://docs.google.com/document/d/1_pnQGBWQXQcN_tHHSyjgo3wgF7MmD3oipb9GSN2XEVA/edit

10 อันดับ สัตว์ที่มีอายุสั้นที่สุดในโลก

เรามาดูกันครับ ว่า ณ ปัจจุบันนี้ มีสัตว์ชนิดใดบ้าง บางตัวก็น่าสงสารมากๆ เพราะอยู่ได้ไม่ถึง 24 ชม. เอง ลองติดตามอ่านกันดูนะครับ

10. กระต่าย

อายุขัย เฉลี่ย 5 ปี กระต่ายเป็นสัตว์ที่น่ารักของทุกคนตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ และใครล่ะจะไม่ชอบเจ้าสัตว์น่ารักจนฟูน่ากอดอย่างตัวนี้ แต่นับเป็นความโชคร้ายของกระต่ายที่มันไม่สามารถมีความสุขกับเราได้นาน เพราะอายุขัยของมันนั้นยาวประมาณ 5 ปีเท่านั้น ซึ่งเป็นเวลาที่สั้นมาก แต่เพื่อทดแทนอายุที่สั้นของมัน กระต่ายได้พัฒนาความเร็วในการออกลูกออกหลานที่รวดเร็วจนเรามีคำเปรียบเปรยว่า "ออกลูกเร็วเหมือนกระต่าย" เลยทีเดียว ซึ่งความเร็วในการออกลูกของกระต่ายนั้นก็เป็นปัญหาในบางประเทศ เช่น ออสเตรเลีย ที่พวกมันถูกนำเข้ามาในประเทศและได้กลายเป็นสัตว์รบกวนตัวฉกาจ เพราะพวกมันไม่มีผู้ล่าตามธรรมชาติแถวนั้น ทางการออสเตรเลียก็ได้พยายามที่จะจำกัดจำนวนของกระต่ายด้วยการนำแมวเข้ามา และช่างโชคร้ายของแดนจิงโจ้เหลือเกินที่ต่อมาแมวก็ได้กลายเป็นสัตว์รบกวนล้นจำนวนอีกชนิด


9. แฮมสเตอร์และหนูตะเภา

อายุขัย เฉลี่ย 4 ปี เจ้าแฮมสเตอร์สัตว์ยอดนิยมของโรงเรียนและญาติยักษ์ใหญ่ของมัน หนูตะเภาได้เข้ามาในอันดับที่เก้าด้วยอายุขัยประมาณ 2-4 ปี เจ้าหนูแฮมเตอร์โดยเฉพาะ แฮมเตอร์ซีเรียน เป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมที่สามารถออกลูกได้เร็วซึ่งพวกมันผสมพันธุ์หลายครั้งต่อปีและให้กำเนิดลูกหลายครอก นอกจากแฮมเตอร์จะน่ารักน่ากอดแล้ว พวกมันยังสามารถเก็บอาหารไว้ในแก้มทั้งสองข้างและถีบจักรได้อีกด้วย สำหรับคนที่โชคร้ายโดนมันกัดก็คงรู้ว่าเจ้าแฮมเตอร์นี้กัดเจ็บแค่ไหน ส่วนหนูตะเภาที่เหมือนรุ่นพี่ของแฮมเตอร์นั้นอาจจะไม่ชอบถีบจักรเหมือนรุ่นน้อง แต่มันก็มีชื่อเสียงในการทำเสียงแปลกๆเมื่่อตกใจหรือตื่นเต้น


8. หนูบ้าน

อายุขัยเฉลี่ย : 1 -- 3 ปี สัตว์ตัวกระจิ๋วที่แทบจะไม่มีใครต้องการ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มนุษย์เริ่มเลี้ยงแมวและเริ่มประดิษฐ์กับดักหนูขึ้น หนำซ้ำ เมื่อเจ้าหนูพวกนี้มาอาศัยอยู่ในบ้านแล้วก็ยากที่จะไล่ไปอีกด้วย ซึ่งนานวันเข้าพวกมันจะออกลูกออกหลานมาบานตะไท นอกจากนี้ หนูตัวกระเปี๊ยกยังเป็นที่หวาดกลัวของคนหลายคน เพราะมันสามารถ กระโดด, ไต่ , วิ่ง และว่ายน้ำได้อีกตัว ถึงหนูจะดูสุดยอดแต่ พวกมันไม่สามารถมองเห็นสีได้ เพื่อทดแทนสิ่งนั้น หนูได้พัฒนาการให้มีการฟังที่ดีเยี่ยม ซึ่งมันสามารถฟังเสียงอัลตราซาว์ดได้ หนูตัวเมียนั้นสามารถผสมพันธุ์ ได้ทุกๆ 15-20 วัน และเกิดอารมณ์ได้ทุกครั้งเมื่่อได้กลิ่นปัสสาวะของตัวผู้ แต่ละครั้ง หนูออกลูกประมาณ 5-10 ตัวซึ่งนี้อาจจะเป็น เหตุผลว่าทำไมพวกมันถึงชอบโผล่ออกมาเซย์ฮัลโหลกันหน้าสลอน เพราะความที่ไม่เป็นต้องการของมนุษย์อย่างเราๆ และเป็นอาหารสุดโปรดของนักล่าเกือบทุกสายพันธุ์นี้ทำให้อายุขัยของหนูอยู่ที่ประมาณ 1-3 ปี


7. ปลาหางนกยุง

อายุขัยเฉลี่ย 2 ปี เป็นที่รู้จักกันในชื่อ แกมบูเซีย ปลาหางนกยูงมีถิ่นกำเหนิดในอ่าวเม็กซิโก พวกมันมีอายุขัยสั้นประมาณ 2 ปีเท่านั้น ปลาหางนกยูงนั้นเป็นปลกที่อึดพอตัว นอกจากนี้ พวกมันยังสามารถอาศัยอยู่ในน้ำเค็มและน้ำที่ร้อนถึง 42 องศาเซลเซียส ในช่วงสั้นๆได้ีอีกด้วย ปลาหางนกยูงนั้นไม่ออกไข่เหมือนปลา แต่จะออกลูกเป็นตัวเหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ตัวเมียนั้นมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ซึ่งอาจจะยาวถึง 7 เซนติเมตร ในขณะที่ตัวผู้นั้นยาว 4 เซ็นติเมตร ปลกหางนกยูงเจริญพันธุ์ตั้งแต่อายุน้อย ซึ่งทำให้พวกมันสามารถออกลูกออกหลานได้เยอะและลูกๆมีโอกาสรอดสูง ซึ่งพวกมันจะออกลูกครั้งล่ะ 50-100 ตัว


6. ไรแดง, โอพอซซัม และกิ้งก่าคามีเลี่ยน

อายุขัยเฉลี่ย : ~ 1 ปี ไรแดง , โอพอซซัมและกิ้งก่าคามีเลียนอาจจะเป็นสัตว์ที่ต่างกันสุดขั้ว แต่พวกมันมีอายุขัยที่เท่ากัน คือ 1 ปีเท่านั้น มาเริ่มที่ไรแดงกันก่อน ถ้าใครเลี้ยงปลาก็คงจะรู้จักเจ้าตัวนี้เป็นแน่ เพราะไรแดงเป็นสัตว์น้ำเค็มตัวกระจิ๋วที่เป็นอาหารของปลา เจ้าสัตว์ที่น่าสงสารนี้เป็นญาติกับปูและลอสเตอร์ ด้วยเหตุที่ไรแดงตัวกระเปี๊ยก มันจึงอยู่อันดับล่างๆของห่วงโซ่อาหารและมีอายุสั้น ด้วยสาเหตุจากที่มันมีอายุสั้น มันจึงได้พัฒนาการออกลูกที่รวดเร็วเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ตัวเองเอาไว้ กิ่งก่าคามิเลี่ยน จากการศึกษาในปัจจุบัน เจ้ากิ่้งก่าเปลี่ยนสีได้ จะเติมโตอย่างรวดเร็ว และผสมพันธุ์ในเดือนถัดๆมา เช่นพวกมันเกิดเมื่อเดือน พฤศจิกายน และจะผสมพันธุ์ในเดือน มกราคม-กุมภาพันธุ์ เพราะฉะนั้นเจ้ากิ่งก่าคามิเลี่ยนนี้จะไม่มีวันได้พบหน้าพ่อแม่ตอนเกิดมาเลย เพราะรุ่นพ่อแม่ของมัน จะตายหมดก่อนที่รุ่นลูกจะได้เกิดมาเสียอีก ไอพอซซัมอเมริกา เป็นสัตว์พื้นเมืองของอเมริกาตามชื่อของมัน พวกมันเป็นสัตว์ตัวเล็กที่มีขนาดเท่าแมวซึ่งมีหน้าขาว , หางที่เหมือนหนู ซึ่งช่วยให้มันโหนตัวลงมาจากต้นแม้ได้และมีขนสีเทา นอกจากนี้ โอพอซซัมอเมริกามีอายุขัยอยู่ที่ประมาณ 4 ปี แต่พวกมันจะตายในปีแรกๆ ทำให้อายุขัยโดยรวมนั้นเท่ากับ 1 ปี โอพอสซั่มอเมริกานั้นเป็นสัตว์ที่หน้าแปลก , นิสัยแปลกแล้วยังอายุสั้นที่สุดในโลกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนำ


5. แมลงปอ

อายุขัย : 4 เดือน แมลงปอมีรูปร่างเหมือนเฮลิคอปเตอร์ย่อส่วน ซึ่งพวกเรามักจะเห็นมันบินฉวัดเฉวียนไปมาแถวบ่อน้ำในหน้าร้อน ซึ่งพวกมันใช้เวลาที่มีอยู่สั้นๆบนโลก หมดไปกับการหาอาหารและผสมพันธุ์ ถึงแม้ว่าแมลงปออาจจะอยู่ในคราบของตัวอ่อนถึง 5 ปีเพื่อรอเวลาเหมาะที่จะโตเต็มที่ แต่เวลาที่มันใช้บนโลกเมื่อโตเต็มที่นั้นจะยาวนานแค่ 4 เดือนเท่านั้น เพราะฉะนั้นครั้งต่อไปที่คุณเห็นแมลงปอก็อย่าไปจับมันมามัดเชือกแล้วปล่อยไปให้บินรอบๆล่ะ เพราะเจ้าสัตว์พวกนี้ ใช้เวลานานกว่าจะโตได้ และเมื่อโตแล้ว พวกมันก็มีเวลาไม่นานที่จะได้ชมความสวยงามของโลกใบนี้มากนัก



4. แมลงวัน และ ผึ้งงาน

อายุขัย : 4 อาทิตย์ แมลงวันและผึ้งงานเข้ามาที่ 4 ด้วยอายุขัยนานเท่ากันก็คือ 4-5 สัปดาห์ ถึงแม้ว่าเจ้าสัตว์พวกนี้จะอายุสั้น แต่พวกมันก็ทำงานหนักไม่เบาตลอดช่วงอายุของมัน แมลงวันนั้นจะฟักเป็นตัวและกลายเป็นหนอนในเวลา 24 ชั่วโมงเท่านั้น จากนั้นมันก็จะกลายเป็นแมลงวันโตเต็มตัวในไม่กี่วันต่อมา ซึ่งหลังจากนั้นมันก็จะเริ่มหาอาหารและผสมพันธุ์ ในขณะที่วิถีชีวิตของแมลงวันนั้นดูจะไม่ถูกต้อนรับจากมนุษย์อย่างพวกเรา ส่วนผึ้งงานที่น่าสงสารที่ทั้งหมดส่วนใหญ่จะเป็นตัวเมีย และใช้ชีวิตของมันทำงานดังเช่นชื่อของมัน อีกทั้งผึ้งงานยังต้องปกป้องรังของมันด้วยการต่อยผู้ที่เข้ามารุกราน ซึ่งการต่อยนี้ก็เหมือนกับการตัดอายุขัยของมัน เพราะเมื่อผึ้งต่อย เหล็กในก็จะลากเอาเครื่องในของมันออกมาด้วย ทำให้มันมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน นี่อาจจะเป็นที่มาของผึ้งนักฆ่าที่อาจจะต้องการประท้วงในความไม่ยุติธรรมของชีวิตก็เป็นได้



3. มดตัวผู้

อายุขัย : 3 สัปดาห์ มดตัวผู้นั้นจะมีชีวิตที่สะดวกสบายไม่เหมือนกับตัวเมีย เพราะตั้งแต่เกิดมา หน้าที่ของมดตัวผู้นั้นก็คือ กินและสืบพันธุ์ ซึ่งเวลาเกิดของมดตัวผู้นั้นจะเป็นช่วงเดียวกับมดตัวเมีย เมื่อฤดูผสมพันธุ์มาถึง มดตัวผู้จะงอกปีกเพื่อบินไปผสมพันธุ์กับตัวเมียระหว่างทาง และเมื่อผสมพันธุ์เสร็จ หน้าที่ของตัวเมียก็คือไปหารังและเริ่มอาณาจักรของมันเอง แต่สำหรับตัวผู้แล้ว เมื่อเสร็จการผสมพันธุ์ หน้าที่ของมันก็จะจบลง ซึ่งก็หมายถึงความตายในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากเกิด ดูเหมือนว่าข้อแลกเปลี่ยนของความหรูหราสะดวกสบายในชีวิตของมดตัวผู้นั้นก็คืออายุขัยสั้นนี่เอง

2. Gastrotrichs

อายุขัย: 3 วัน Gastrotrichs แก็สโทรทริชส์ มีรากศัพท์มาจากภาษากรีซ ที่มีความหมาย 2 คำคือ Gaster แปลว่า กระเพาะ และคำว่า Thrix แปลว่า ผม ซึ่งมาจากลักษณะของร่างกายของมันมีลักษณะที่คล้ายเส้นผมที่มีกระเพาะ มันเป็นสัตว์น้ำตัวเล็กจิ๋วที่มองเห็นได้โดยกล้องจุลทรรศ์ซึ่งพวกมันเป็นสัตว์ขนาดเล็ก มีความยาวเพียง 0.06 - 3 มิลลิเมตร สามารถพบได้ทั้งในน้ำจืด และน้ำทะเล ถึงแม้ว่าพวกมันมีหลายสายพันธุ์แต่ทั้งหมดมีอายุขัยสั้นเหมือนกันหมด โดยวิถีชีวิตของ Gastrotrichs นั้นก็ง่ายๆ ลอยไปมาในน้ำ , ขึ้นสู่ผิวน้ำบางครั้งก่อนที่จะกลับลงมากับกระแสน้ำ, กินและทำโน่นนี่นั่นนิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่ Gastrotrichs ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนของชีวิตสุดเรียบง่ายด้วยอายุขัยที่สั้นเพียง 3 วันเท่านั้น

1. Mayflies ( แมงชีปะขาว )

อายุขัย: ประมาณ1-24 ชม. วันชีปะขาว หรือชีผะขาวก็เรียก ชีผ้าขาวก็เรียก หรือเมย์ฟลายส์ (mayflies) ชื่อวิทยาศาสตร์ เอพฮีมีรอบเทอรา (Ephemeroptera) ตัวขนาดเล็กถึงกลาง ปีกบางมีเส้นมากมาย ปีกคู่แรกใหญ่กว่าคู่หลัง ตัวเมียวางไข่ในน้ำ ตัวอ่อนรูปร่างเรียวยาวอาศัยในน้ำนาน 1-2 ปี ลอกคราบหลายครั้งจนเป็นแมลงโตเต็มวัย มีปีก ชอบเล่นไฟ มันมีอายุเพียง 1-2 วันเท่านั้น ไม่กินอาหาร ผสมพันธุ์แล้วตาย 

ที่มาhttp://campus.sanook.com/

10 อันดับ"สัตว์โลก"อายุยืนที่คุณจะต้องอึ้งไปกับมัน

อันดับ 10 กุ้งมังกร 
กุ้งมังกรถือเป็นสัตว์ส่งออกที่ราคาสูงพอสมควร แต่ถ้าพูดถึงกุ้งมังกรที่ดังๆก็ต้องเป็น “จอร์จ” ที่ถูกจับขึ้นมาจากชายฝั่งนิวฟาวแลนด์ และนำไปขายยังภัตตาคารอาหารทะเล ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่มากทางร้านจึงไม่ได้นำไปทำอาหาร แต่ปล่อยเอาไว้ในตู้ไว้โชว์ลูกค้า ต่อมาลูกค้าจำนวนหนึ่งได้แจ้งไปยังศูนย์คุ้มครองสัตว์เพื่อขอให้ปล่อยมันกลับสู่ทะเล และสุดท้ายมันก็ได้ใช้ชีวิตต่อในทะเท และเมื่อตรวจสอบก็พบว่าจอร์จน่าจะเกิดราวๆปี 1869 ซึ่งรวมๆแล้วตอนนั้นมันมีอายุกว่า 140 ปีเลยทีเดียว

ขอบคุณรูปจาก http://en.wikipedia.org/wiki/The_World's_Largest_Lobster
อันดับ 9 หอยกูอี้ดั๊ก 
ด้วยหน้าตาอันเฉพาะตัวของมัน คนไทยจึงนิยมเรียกมันว่า "หอยจู๋" นั่นเอง แต่แท้จริงๆแล้วชื่อมันคือหอยกูอี้ดั๊ก ที่มาจากภาษาพื้นเมืองอเมริกัน แปลว่า ขุดลึก เพราะปกติหอยชนิดนี้มักจะขุด มุดไปอยู่ในทราย ยิ่งตัวโตเท่าไหร่ก็ยิ่งขุดได้ลึกเท่านั้น!! และจากการสำรวจก็พบว่ามันอายุยืนกว่า 160 ปี

ขอบคุณรูปจาก http://seagrant.noaa.gov/News/FeatureStories/TabId/268/ArtMID/715/ArticleID/167/Washington-Sea-Grant-Releases-Final-Geoduck-Aquaculture-Report.aspx
อันดับ 8 หนอนท่อ 
หนอนท่อที่มีรูปทรงละม้ายคล้ายดอกไม้ปลอมนี้ อาศัยอยู่ในทะเลลึกและพึ่งพาแบคทีเรียสายพันธุ์หนึ่งในการผลิตอาหารดำรงชีวิต แม้ดูว่ามันจะทำอะไรไม่ได้มากมาย แต่เจ้าหนอนท่อสายพันธุ์นี้มีความยาวได้ถึง 3 เมตร และมีอายุมากได้ถึง 170 ปีแหนะ

ขอบคุณรูปจาก http://animalreader.ru/zhivotnyie-dolgozhiteli.html
อันดับ 7 เต่าเรเดียต้า 
ในบรรดาเต่าด้วยกันนั้น เต่าเรเดียต้านั้นมีอายุยืนที่สุด เต่าเรเดียต้านั้นจัดเป็นเต่าบกที่มีสีสันและลวดลายสวยงามมาก ทำให้มนุษย์มักจะชอบเอามันมาเลี้ยง มันมีถิ่นกำเนิดที่มาดากัสก้า อัฟริกา เต่าเรเดียต้าที่มีชื่อเสียงที่สุดนั้นชื่อว่า ตูอิมาลิลา ซึ่งกัปตันคุกได้นำมันไปถวายกษัตริย์แห่งตองกาเมื่อราวปี ค.ศ.1777 ตูอิมาลิลามีชีวิตอยู่เรื่อยมาจนถึงปี ค.ศ.1965 ซึ่งหมายความว่ามันมีอายุไม่น้อยกว่า 188 ปี เลย

ขอบคุณรูปจาก http://relivearth.com/endangered-species/radiated-tortoise/
อันดับ 6 หอยเม่นแดง  
หอยประเภทนี้จะพบได้ในมหาสมุทรแปซิฟิค ที่มักจะอาศัยอยู่ตามโขดหินใต้ทะเล และด้วยความที่มันไม่ค่อยมีศัตรูทางธรรมชาติเท่าไหร่นัก เลยทำให้มันมีชีวิตยืนยาว ซึ่งการเจริญเติบโตของมันจะหยุดเมื่ออายุ 10 ปี แต่จะยังคงอยู่ต่อไปได้เรื่อยจน 200 ปีทีเดียว

ขอบคุณรูปจาก http://www.doisongphapluat.com/to-quoc-xanh/kham-pha/10-1oai-dong-vat-song-tho-nhat-trai-dat-a6359.html
อันดับ 5 วาฬ 
วาฬ พันธุ์นี้ถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีอายุยืนที่สุดในโลก นอกจากนี้แล้วมันยังได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ที่มีปากกว้างที่สุดในโลกด้วย แม้ช่วงอายุจะยืนยาวถึง 210 ก็ตาม แต่มันมีประชากรเพียง 24,900 ตัวทั่วโลกเท่านั้น ทั้งนั้นทั้งนี้มาจากการล่าของมนุษย์นั่นเอง

ขอบคุณรูปจาก http://www.animalspot.net/bowhead-whale.html
อันดับ 4 ปลาคาร์ฟ โคอิ 
สายพันธุ์นี้ถูกพัฒนาขึ้นจากปลาคาร์ฟญี่ปุ่น ที่หลายๆคนเชื่อวาสมันเป็นสัญลักษณ์ของความรัก และมิตรภาพ ปลาโคอิที่มีชื่อเสียงสุดนี้ได้แก่ "ฮานาโกะ" ที่มีอายุยืนยาวถึง 226 ปี ฮานาโกะเกิดเมื่อปี 1751 และอยู่มาเรื่อยๆ จนถึงวันที่ 7 กรกฎาคม ปี 1977

ขอบคุณรูปจาก http://foxfiresfingerpaint.blogspot.com/2014/04/koi-fish.html
อันดับ 3 หอยทะเล 
เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับหอยทะเลพันธุ์นี้อยู่บ้าง ก็เพราะมันเป็นอาหารยอกนิยมของชาวญี่ปุ่นเค้า และคงไม่มีคาดคิดว่ามันจะมีอายุยืนยาวถึง 410 ปี!! แน่นอนว่าถ้าเราจับมันบ่อยๆนี่ก็คงหาตัวที่อายุมากๆได้น้อย

ขอบคุณรูปจาก http://www.seawater.no/fauna/mollusca/islandica.html
อันดับ 2 ฟองน้ำ 
ฟองน้ำ ทะเลสายพันธุ์นี้อาศัยอยู่ที่มหาสมุทรแอนตาร์คติกในความลึกหลายร้อยเมตร มันมีอัตราในการเติบโตที่ช้ามากๆ จึงทำให้มันอยู่ได้นานซะเหลือเกิน จากการตรวจวิจัยพบว่ามันมีอายุขัยได้ถึง 1,550 ปีเลยทีเดียว

ขอบคุณรูปจาก http://www.globalspecies.org/ntaxa/1676607
อันดับ 1 แมงกระพรุน Turritopsis nutricula
เจ้าตัวนี้มีวงจรชีวิตแปลกประหลาดมาก คือ หลังจากที่ย่างเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์แล้ว มันก็จะเติบโตแบบถดถอยกลับสู่วัยเด็กอีกครั้ง ซึ่งหลังจากเป็นเด็กได้สมบูรณ์แล้วมันก็จะเติบโตใหม่และก็กลับเป็นเด็กใหม่ เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ซึ่งสรุปได้ว่า ช่วงชีวิตของมันเป็น...อมตะ ทำลายสถิติ สัตว์ที่มีอายุยืนยาวที่สุดในโลก

ที่มาhttp://www.toptenthailand.com/

10 อันดับ สัตว์ที่เลี้ยงยากน่ารัก

อันดับ 10 Spotted Genet 



เจ้าตัวนี้อาจจะมีคนรู้จักน้อยกว่าเพื่อนๆ ในอันดับอื่นๆ แน่นอน เพราะมันยังใหม่ มันถูกนำเข้ามาจากแอฟริกา ซึ่งมองภายนอกมันเหมือน “แมว” เรียกว่าเป็นแมวป่าก็คงไม่ผิดนัก ราคาค่างวดก็แค่ 20,000 อัพเท่านั้นเอง นิสัยส่วนตัวชอบอยู่โดดเดี่ยว ชอบปีนป่ายตามต้นไม้ กินพวกสัตว์ขนาดเล็กเป็นอาหาร ผลไม้บางชนิดก็กินนะ
อัตราความน่ารัก : 3 ดาว

อันดับ 9 เต่าเสือดาว



ปัจจุบันเต่าเสือดาวแอฟริกาใต้เป็นเต่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก เต่าชนิดนี้สามารถเติบโตจนมีขนาดกระดองยาวได้ถึง 23 นิ้ว เต่าเสือดาวแอฟริกาใต้มีลักษณะเฉพาะอีกประการหนึ่ง คือผิวหนัง”ตกกระ”พวกมันจะมีจุดดำเล็กๆกระจายตามผิวหนัง กระนี้เห็นได้ชัดในลูกเต่าที่เพิ่งฟักจากไข่และเต่าวัยอ่อนก่อนจะค่อยๆเลือนหายไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น เต่าเสือดาวต้องการคอกเลี้ยงที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่และควรจัดให้อยู่กลางแจ้งเสมอหากสภาพอากาศอำนวย หากอยู่ตามธรรมชาติจะเป็นสัตว์สันโดษและจะก้าวร้าวอาศัยต้องอยู่ร่วมกันอย่างแออัด เมื่อนำหลายตัวอยู่ด้วยกันต้องมีห้องหรือที่กำบังอย่างเพียงพอเพื่อให้พวกมันเลี่ยงการเผชิญหน้ากับตัวอื่นๆ และไม่ควรนำตัวผู้มาอยู่รวมกันเพราะพวกมันจะต่อสู้กันเพื่อแย่งสิทธ์ในการผสมพันธุ์ ด้วยความที่มันต้องการพื้นที่เยอะ และราคาที่สูงที่สุด บางตัวขายกันมากกว่า 250,000 บาทกันเลยทีเดียว และเนื่องด้วยมันเป็นเต่าที่มจากแอฟริกา อาหารหลักของมันจึงเป็นหญ้าครับ แต่ถ้าจะให้ผักเหมือนเต่าทั่วไปก็ได้ครับ ไม่มีปัญหา และนกเหนือจากนั้นหากมีการเสริมแคลเซียมให้เต่าด้วยก็จะเป็นการดีมากครับ
อัตราความนารัก : 4 ดาว

อันดับ 8 ชูก้าไกลเดอร์เผือก



เหตุที่มีคนสนใจน้อยเพราะราคามัน “สูง” กว่าชูก้าธรรมดาหลายเท่าตัว ซึ่งราคาปกติจะขายกันที่ 25,000 บาท แต่ด้วยความน่ารักของมันแล้วจึงทำให้เริ่มมีผู้นิยมเลี้ยงกันมากขึ้น
อัตราความน่ารัก : 5 ดาว

อันดับ 7 ชินชิล่า



ชินชิลล่า เป็นสัตว์ป่าซึ่งมีถิ่นกำเนิดในเทือกเขา Andes ในแถบอเมริกาใต้ แถบประเทศอาเจนตินา โบลิเวีย ชิลี และเปรู ถูกมนุษย์นำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง เมื่อปี ค.ศ.1810 และสามารถเพาะขยายพันธุ์ในกรงเลี้ยงได้เป็นผลสำเร็จ เมื่อปี ค.ศ.1900 ชินชิลล่าเป็นสัตว์ฟันแทะที่มีหูกางใหญ่คล้ายหนู ขนาดรูปร่างคล้ายกับกระต่าย ขนมีลักษณะแน่นและหนา เพื่อป้องกันตัวเองจากอากาศหนาวเย็นบนเทือกเขาสูง อุ้งเท้าออกแบบมาเพื่อการเดินบนแผ่นหิน มีหลากหลายสีสันเช่น สีเทา สีเทาอ่อน สีดำ หางยาวเป็นพวงคล้ายกระรอก ซึ่งคนทั่วไปคิดว่ามันเป็นหนูธรรมดา และราคาที่แพงไม่ใช่เล่นตกค่างวด 13,000 บาท จึงทำให้มันเป็นที่หมายปองแต่ไม่ซื้อไปเลี้ยงมากเท่าตัวอื่น และเนื่องจากนิสัยตามธรรมชาติของชินชิลล่าจะเป็นสัตว์ที่กระตือรือร้นและชอบสำรวจ ดังนั้นผู้เลี้ยงต้องดูแลเอาใจใส่และควรจะพาออกไปเดินเล่นนอกกรงอย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง เพื่อออกกำลังกายและลดความเครียดของเค้าครับ
อัตราความน่ารัก : 5 ดาว

อันดับ 6 เฟนเน็คฟ็อกซ์



เป็นจิ้งจอกที่เล็กที่สุดในโลกแห่งทะเลทรายซาฮารา กินอาหารทั้งพืชและสัตว์ ดำรงชีวิตอยู่ในทะเลทรายที่แห้งแล้ง ขนที่อุ้งเท้ามีความหนาเป็นพิเศษเพื่อให้พวกมันสามารถเดินบนทรายที่ร้อนระอุได้ ขนสีน้ำตาลอมส้มช่วยให้สามารถอำพรางตัวได้ดีในทะเลทราย วิธีการเลี้ยงสำหรับคนที่ไม่เคยเลี้ยงเฟนเน็คฟ็อกซ์มาก่อน ขั้นตอนง่ายๆ เหมือนกับการเลี้ยงสุนัขทั่วไป มีอุปกรณ์พื้นฐานได้แก่ กรงเลี้ยง ถ้วยอาหาร กระบอกขวดน้ำ และอาหารเม็ด อาจเสริมด้วยเนื้อไก่ต้ม เฟนเน็คฟ็อกซ์เป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายแต่ต้องอยู่ในความดูแลเพราะเป็นสุนัขจิ้งจอกพันธุ์เล็ก มีกระดูกอ่อน ดั้งนั้นจึงเล่นขย้ำเหมือนสุนัขทั่วไปไม่ได้เพราะอาจจะทำให้เกิดกระดูกหักได้ ข้อควรระวังสำหรับเฟนเน็คฟ็อกซ์ คือเรื่องกระดูกที่หักเปราะง่ายและอาการท้องเสียเนื่องจากอาหารที่ผู้เลี้ยงให้ ทั้งต้องระวังเรื่องของเชื้อโรค หากยังให้วัคซีนไม่ครบซึ่งในระยะนี้ต้องระวังเป็นพิเศษเพราะว่าเฟนเน็คฟ็อกซ์สามารถติดโรคที่อยู่ในเมืองได้ง่าย เนื่องจากในป่าไม่ค่อยมีโรค ไม่มีไข้หัด ไม่มีลำไส้อักเสบ ราคาค่าตัวของมันทำให้หลายๆ คนได้แต่ฝัน เพราะคู่ละ 100,000 บาท T^Tเฟนเน็คฟ็อกซ์มีความว่องไวเหมือนพังพอนสามารถจับแมลงได้อย่างรวดเร็ว สามารถกินงูหางกระดิ่งได้ หรือกินแมงป่องที่มีพิษได้เพราะเคลื่อนไหวเร็วกว่า เฟนเน็คฟ็อกซ์ จะตะปบจนเหล็กในหลุดหรือหักก่อนแล้วถึงจะกิน บางทีก็อาจจะกินลูกหนูขนาดเล็ก หรือไข่นกที่วางอยู่ตามพื้น เขาจะได้กินน้ำจากพืชเป็นส่วนใหญ่ อย่างพวกตระกูลตะบองเพชรเพราะในทะเลทรายหาน้ำยาก เขาก็จะกินน้ำจากพืชที่พอหาได้ ซึ่งพฤติกรรมตามธรรมชาติแล้วจะหากินแยกกันเป็นคู่และไม่ออกล่าเป็นฝูงอย่างที่เราเคยเห็น
อัตราความน่ารัก : 3 ดาว

อันดับ 5 เมียร์แคต



จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง ชั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีขนาดลำตัวเล็ก น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม เมียร์แคตมีอุ้งเล็บที่มีลักษณะโค้งเพื่อใช้ในการขุด และมีจมูกไวมาก มีขนสั้นสีน้ำตาล มีขนเป็นแนวเส้นขนานพาดข้ามหลัง อาศัยและหาอาหารในโพรงดินที่ขุดขึ้น ที่คนชอบเพราะเลี้ยงง่าย เหมือนน้องหมา สามารถฝึกให้ขับถ่ายเป็นที่ได้สบายๆ ทานอาหารน้องหมาได้ แต่ราคาก็ค่อนข้างสูงตกตัวละประมาณ 30,000 บาท ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง และมีความสามารถในการขุดโพรงสูงเชียวแหละ ใครอยากเลี้ยงต้องดูดีๆนะครับ

อัตราความน่ารัก : 4 ดาว

อันดับ 4 โอพอสซัม



หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า “พอสซัม” เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมคล้ายหนู หน้าตากวนๆนิดๆ มีถุงหน้าท้องเหมือนจิงโจ้ โอพอสซัมเป็นหนึ่งในสัตว์ทดลองทางการแพทย์ที่มักใช้ศึกษาหาสาเหตุการเกิดโรคในคน เช่น โรคมะเร็ง ความผิดปกติของระบบประสาท ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์สามารถถอดรหัสดีเอ็นเอของโอพอสซัมได้ทั้งหมด ถือเป็นครั้งแรกของการถอดรหัสพันธุกรรมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดที่มีกระเป๋าหน้าท้องเช่นเดียวกับจิงโจ้และโคอาล่าได้ และมันก็เข้ามาฮิตในเมืองไทยสักพักแล้ว ด้วยรูปร่างหน้าตาที่น่ารักของมัน ประกอบกับขนสวยนุ่มนิ่ม ราคาค่างวด 7,500 บาท จุดเด่นของเค้าหากเจอภัยคุกคามแล้ว เค้าจะทำแกล้งตาย ผู้เลี้ยงควรเช็คดูดีๆนะครับว่าอันไหนแกล้งอันไหนจริง ><
อัตราความน่ารัก : 5 ดาว

อันดับ 3 มาโมเสท



เป็นลิงในกลุ่มลิงโลกใหม่ มีถิ่นอาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ มีหางยาว หากินกลางวัน กินผลไม้ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และเป็นลิงขนาดเล็กที่สุดในโลก ลิงมาโมเส็จเป็นลิงที่น้ำหนักประมาณ5-7ขีด ที่คนนิยมเลี้ยงมันเพราะว่ามัน “ฉลาด” เอามากๆ เหมือนเลี้ยงเด็กเลยทีเดียว ดังนั้นมันจึงต้องการความรัก ความเอาใจใส่ เพราะมันก็คงจะคิดว่าเราเป็นครอบครัวของมันด้วย ซึ่งราคาค่าตัวของมันก็ไม่ใช่ถูกๆ เสียด้วย ซึ่งตัวผู้ 30,000 บาท และ ตัวเมีย 35,000 บาท 
อัตราความน่ารัก : 5 ดาว

อันดับ 2 แพรี่ด็อก



แพรรีด็อกมีลักษณะโดยทั่วไป คือ ใบหูเล็ก ดวงตากลมโต ฟันแข็งแรง ขาคู่หน้าจะมีเล็บที่แหลมคมและแข็งแรง มีหน้าที่ขุดคุ้ยดินเพื่อหาอาหารและขุดโพรงอยู่อาศัย ออกหาอาหารในเวลากลางวันซึ่งกินได้ทั้งพืชและสัตว์ จำพวกหญ้า ผัก เมล็ดพืชต่าง ๆ รวมถึง แมลงและหนอน มีพฤติกรรมทางสังคมที่มักออกมาทักทายกันเองในฝูง ซึ่งเวลาที่เจอกันครั้งแรกจะทักทายกันด้วยการยิงฟันและแตะกันคล้ายกับการโอบกอดหรือจูบ จากนั้นก็จะช่วยกันทำความสะอาดขนให้กันและกัน แพรรีด็อกมีจุดเด่นประการหนึ่งอันเป็นที่มาของชื่อ คือ เสียงร้องที่คล้ายกับเสียงสุนัขเห่า จึงเป็นที่มาของชื่อ ปัจจุบันเป็นที่นิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยความที่เลี้ยงง่าย น่ารัก ขี้เล่น ติดคน ทนสภาพอากาศบ้านเราได้ดี และราคาไม่แพงมาก ประมาณ 4,000 บาทเท่านั้น
อัตราความน่ารัก : 5 ดาว

อันดับ 1 ชูก้าไกลเดอร์



ถือเป็นสัตว์เอเลี่ยนที่ได้รับความนิยมสูงสุด ถามกี่ร้านต่อกี่ร้านก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันหมดเลย เหตุที่มันเป็นที่นิยมก็คงเป็นเพราะราคามันถูกที่สุด และก็น่ารักไม่แพ้ตัวอื่นๆ เลย Sugar glider หรือ กระรอกบินออสเตรเลีย หรือที่เรียกกันว่า จิงโจ้บิน คือสัตว์ที่มีกระเป๋าหน้าท้องสำหรับเลี้ยงดูลูกอ่อน อยู่ในกลุ่มเดียวกับ หมีโคอะล่า และจิงโจ้ ชูการ์ ไกลเดอร์ มีถิ่นกำเนิดในเกาะแทสเมเนีย ประเทศออสเตรเลีย และปาปัวนิวกินี ประเทศอินโดนีเซีย พวกมันเป็นสัตว์หากินกลางคืน กลางวันจะชอบนอน ใช้ชีวิตส่วนใหญ่บนต้นไม้ เป็นสัตว์สังคมที่อยู่กันเป็นฝูง ประมาณ 6-10 ตัว ราคาค่าตัวพวกมันส่วนใหญ่ราคาจะไม่เกิน 1,000 บาท
อัตราความน่ารัก : 5 ดาว

ที่มาhttp://pantip.com

10อันดับสัตว์สายพันธ์ใหม่


TinTinkerbell Fairyfly &ndash; &lsquo;แมลงนางฟ้าทิงเกอร์เบลล์&rsquo; มีลักษณะเหมือนตัวต่อขนาดจิ๋ว มีความยาวเพียง 250 ไมโครเมตร ใหญ่กว่าเส้นผมคนเราเพียง 2.5 เท่า จัดเป็นแมลงมีปีกขนาดเล็กที่สุดชนิดหนึ่ง อาศัยอยู่ในป่าเขตฝนในคอสตาริก้า
1
TinTinkerbell Fairyfly – ‘แมลงนางฟ้าทิงเกอร์เบลล์’ มีลักษณะเหมือนตัวต่อขนาดจิ๋ว มีความยาวเพียง 250 ไมโครเมตร ใหญ่กว่าเส้นผมคนเราเพียง 2.5 เท่า จัดเป็นแมลงมีปีกขนาดเล็กที่สุดชนิดหนึ่ง อาศัยอยู่ในป่าเขตฝนในคอสตาริก้า
LivDomed Land Snail &ndash; &lsquo;หอยทากดินหลังโดม&rsquo; เป็นหอยทากตัวใสขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในถ้ำลึกใต้ดิน 900 เมตร ในแถบตะวันตกของโครเอเชีย จัดเป็นหนึ่งในสัตว์ที่เคลื่อนที่ช้าที่สุดในโลก เพราะเคลื่อนตัวเพียงไม่กี่มิลลิเมตรต่อหนึ่งสัปดาห์
2
LivDomed Land Snail – ‘หอยทากดินหลังโดม’ เป็นหอยทากตัวใสขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในถ้ำลึกใต้ดิน 900 เมตร ในแถบตะวันตกของโครเอเชีย จัดเป็นหนึ่งในสัตว์ที่เคลื่อนที่ช้าที่สุดในโลก เพราะเคลื่อนตัวเพียงไม่กี่มิลลิเมตรต่อหนึ่งสัปดาห์
FoClean Room Microbes &ndash; &lsquo;จุลินทรีย์ห้องสะอาด&rsquo; อาศัยอยู่ในห้องปลอดเชื้อขององค์การนาซ่าที่รัฐฟลอริด้า ซึ่งเป็นห้องที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันเชื้อโรคและจุลินทรีย์ต่างๆ ไม่ให้ติดไปกับยานอวกาศที่ไปลงจอดบนดาวดวงอื่น แต่นักวิทยาศาสตร์พบจุลินทรีย์ชนิดนี้ในห้องปลอดเชื้อดังกล่าว และยังพบด้วยว่าจุลินทรีย์นี้มีความทนทานต่อความแห้งแล้ง สภาพความเป็นกรด สภาพอากาศรุนแรง และรังสี UV ทำให้เกิดความกังวลว่าจุลินทรีย์ชนิดนี้อาจติดไปกับยานอวกาศที่ไปลงจอดดาวดวงอื่นได้&nbsp;
3
FoClean Room Microbes – ‘จุลินทรีย์ห้องสะอาด’ อาศัยอยู่ในห้องปลอดเชื้อขององค์การนาซ่าที่รัฐฟลอริด้า ซึ่งเป็นห้องที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันเชื้อโรคและจุลินทรีย์ต่างๆ ไม่ให้ติดไปกับยานอวกาศที่ไปลงจอดบนดาวดวงอื่น แต่นักวิทยาศาสตร์พบจุลินทรีย์ชนิดนี้ในห้องปลอดเชื้อดังกล่าว และยังพบด้วยว่าจุลินทรีย์นี้มีความทนทานต่อความแห้งแล้ง สภาพความเป็นกรด สภาพอากาศรุนแรง และรังสี UV ทำให้เกิดความกังวลว่าจุลินทรีย์ชนิดนี้อาจติดไปกับยานอวกาศที่ไปลงจอดดาวดวงอื่นได้ 
ThAmoeboid Protist &ndash; &lsquo;อะมีบอยด์ โพรทิส&rsquo; สัตว์เซลล์เดียวจำพวกอะมีบา มีความยาว 4 ซม. พบแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนียน
4
ThAmoeboid Protist – ‘อะมีบอยด์ โพรทิส’ สัตว์เซลล์เดียวจำพวกอะมีบา มีความยาว 4 ซม. พบแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนียน
WLeaf-Tailed Gecko &ndash; &lsquo;กิ้งก่าหางใบไม้&rsquo; พบในออสเตรเลีย มีตัวยาวและผอมกว่ากิ้งก่าทั่วไป ดวงตาโตใหญ่ มีหางแบนเหมือนใบไม้ ความยาวทั้งตัวประมาณ 4 นิ้ว ชอบพรางตัวอยู่ตามก้อนหินหรือใบไม้เพื่อรอเหยื่อ
5
WLeaf-Tailed Gecko – ‘กิ้งก่าหางใบไม้’ พบในออสเตรเลีย มีตัวยาวและผอมกว่ากิ้งก่าทั่วไป ดวงตาโตใหญ่ มีหางแบนเหมือนใบไม้ ความยาวทั้งตัวประมาณ 4 นิ้ว ชอบพรางตัวอยู่ตามก้อนหินหรือใบไม้เพื่อรอเหยื่อ
DiOrange Penicillium &ndash; &lsquo;เชื้อราสีส้ม&rsquo; พบอยู่ตามพื้นดินในตูนีเซีย นิตยสารวิทยาศาสตร์ในเนเธอร์แลนด์เป็นผู้เปิดเผย
6
DiOrange Penicillium – ‘เชื้อราสีส้ม’ พบอยู่ตามพื้นดินในตูนีเซีย นิตยสารวิทยาศาสตร์ในเนเธอร์แลนด์เป็นผู้เปิดเผย
ThSkeleton Shrimp &ndash; &lsquo;กุ้งโครงกระดูก&rsquo; เป็นสัตว์ตระกูลกุ้งที่มีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่เคยพบ ยาวเพียง 3 มม. ตัวใสจนเห็นโครงสร้างภายในเหมือนโครงกระดูก พบที่ถ้ำแห่งหนึ่งนอกชายฝั่งทางใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย
7
ThSkeleton Shrimp – ‘กุ้งโครงกระดูก’ เป็นสัตว์ตระกูลกุ้งที่มีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่เคยพบ ยาวเพียง 3 มม. ตัวใสจนเห็นโครงสร้างภายในเหมือนโครงกระดูก พบที่ถ้ำแห่งหนึ่งนอกชายฝั่งทางใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย
It iANDRILL Anemonel &ndash; &lsquo;ดอกไม้ทะเลแอนดริล&rsquo; โครงการสำรวจขั้วโลกใต้ ANDRILL พบดอกไม้ทะเลนี้ใต้แผ่นน้ำแข็งในแถบแอนตาร์กติกา ความยาวประมาณ 1 นิ้ว มีหนวดราว 20-24 เส้น ถือเป็นสัตว์ไม่กี่ชนิดที่สามารถอาศัยอยู่ในแผ่นน้ำแข็งที่ขั้วโลกใต้ได้
8
It iANDRILL Anemonel – ‘ดอกไม้ทะเลแอนดริล’ โครงการสำรวจขั้วโลกใต้ ANDRILL พบดอกไม้ทะเลนี้ใต้แผ่นน้ำแข็งในแถบแอนตาร์กติกา ความยาวประมาณ 1 นิ้ว มีหนวดราว 20-24 เส้น ถือเป็นสัตว์ไม่กี่ชนิดที่สามารถอาศัยอยู่ในแผ่นน้ำแข็งที่ขั้วโลกใต้ได้BeKaweesak&rsquo;s Dragon Tree &ndash; &lsquo;ต้นมังกรกวีศักดิ์&rsquo; พบในแถบภูเขาในประเทศไทยและพม่า ลักษณะใบแหลมเรียวเหมือนดาบ มีดอกสีครีม ก้านดอกสีส้ม นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าต้นไม้หายากพันธุ์นี้เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เพราะคาดว่าเหลือไม่ถึง 2,500 ต้น&nbsp;
9
BeKaweesak’s Dragon Tree – ‘ต้นมังกรกวีศักดิ์’ พบในแถบภูเขาในประเทศไทยและพม่า ลักษณะใบแหลมเรียวเหมือนดาบ มีดอกสีครีม ก้านดอกสีส้ม นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าต้นไม้หายากพันธุ์นี้เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เพราะคาดว่าเหลือไม่ถึง 2,500 ต้น 
ThOlinguito &ndash; สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีลักษณะผสมผสานระหว่างแมวกับหมีตัวเล็ก พบที่อเมริกาใต้ มีขนฟูสีแดงผสมน้ำตาล หางสั้น หน้ากลม มีบรรพบุรุษร่วมกับแรคคูน นับเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแบบกินเนื้อสานพันธุ์แรกที่พบในอเมริกาในรอบ 35 ปี &nbsp;
10
ThOlinguito – สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีลักษณะผสมผสานระหว่างแมวกับหมีตัวเล็ก พบที่อเมริกาใต้ มีขนฟูสีแดงผสมน้ำตาล หางสั้น หน้ากลม มีบรรพบุรุษร่วมกับแรคคูน นับเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแบบกินเนื้อสานพันธุ์แรกที่พบในอเมริกาในรอบ 35 ปี  


ที่มา  http://www.voathai.com